วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

Part 2 ประวัติความเป็นมาของตระกูลไวทยกุล


            Part 2
ประวัติความเป็นมาของตระกูลไวทยกุล
          นายถึก แซ่ตัน เป็นชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่ เข้ามาอยู่ในประเทศไทย สมัยรัชกาลที่ ๔ ได้มาแต่งงานกับหญิงไทย มีบุตรด้วยกันและทำมาหากินอยู่ในประเทศไทยจนสิ้นชีวิต บุตรชายคนสำคัญของนายถึกชื่อ นายสวน แซ่ตัน(อันที่จริงชื่อสอน เข้าใจว่าผู้เสนอชื่อขึ้นไปในสมัยนั้นคงจะอ่านรายชื่อได้ไม่ชัดจึงพิมพ์เป็นสวน ในที่นี้จะขอใช้ชื่อเรียกว่าสอนอันเป็นชื่อที่ลูกหลานรู้จักกันดี)เป็นผู้ที่นำให้เกิดวงศ์ตระกูลนี้ขึ้น
            เมื่อนายสอนโตเป็นหนุ่ม นายถึกผู้เป็นบิตาก็จัดการให้บวชในศาสนาพุทธ ตามประเพณีของชาวไทยในสมัยนั้น หลังจากนั้นก็จัดการให้แต่งงานมีครอบครัวกับนางสาวทองอยู่ซึ่งเป็นชาวบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีบุตร-ธิดาด้วยกัน ๑๒คน เป็นชาย ๗คน เป็นหญิง ๕คน
              นายสอนและนางทองอยู่ได้ย้ายมาอยู่ จ.อยุธยา หลังจากแต่งงานแล้ว
โดยนายถึกผู้เป็นบิดาก็ได้มาอาศัยอยู่กับลูก-หลานในครอบครัวนี้จนสิ้นชีวิต
              ลูกชายคนโตของนายสอนชื่อเด็กชายเจียม แซ่ตัน เป็นเด็กฉลาดเรียนหนังสือเก่ง เมื่อจบชั้นป.๔(ในสมัยนั้น) บิดาได้พาไปสอบเข้าเรียนแพทย์ที่โรงพยาบาลราชแพทยาลัย(โรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน) เป็นนักเรียนแพทย์รุ่นที่๓ ของโรงพยาบาล เมื่อจบการศึกษา นายแพทย์เจียม  ได้เข้ารับราชการเป็นนายแพทย์ของกรมทหารเรือ  ในตำแหน่ง แพทย์ประจำกองสรรพาวุธ กรมทหารเรือ นายแพทย์เจียมได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่แพทย์ประจำกองฯ ด้วยความวิริยะอุตสาหะ อย่างเต็มความสามารถ ด้วยความที่เป็นคนเก่งและได้รับการเลี้ยงดูจากคุณพ่อสอน-คุณแม่ทองอยู่ ให้เป็นคนมีเมตตากรุณา มีน้ำใจเอื้ออารี ต่อคนทั่วไป จึงทำให้ นายแพทย์เจียมมีชื่อเสียงในการรักษาคนไข้และเป็นที่เคารพรักของคนไข้และคนทั่วไป
                ความดีงาม ความมีน้ำใจโอบอ้อมอารี และความสามารถในการรักษาคนไข้ของนายแพทย์เจียม ได้ทราบถึงพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พระองค์จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานทินนามและยศให้ใหม่ว่า ขุนสุขบาลบริวัตร(เรือโทเจียม ไวทยกุล) และทรงพระราชทานนามสกุล ไวทยกุล(VAIDYAKULA) ไว้ให้เป็นเกียรติประวัติแก่ครอบครัวนี้ไปจนชั่วลูกหลาน  เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖ ลำดับที่ ๑๓๙๙
เนื่องจากในขณะนั้น นายสอน(บิดา) และนายถึก(ปู่) ยังมีชีวิตอยู่ สกุลไวทยกุล จึงต้องเริ่มต้นจากนายถึก ซึ่งอาวุโสที่สุดในตระกูล นายถึกจึงเป็นต้นตระกูลไวทยกุลเป็นคนแรกในประเทศไทย ลูกหลานทุกคนที่เกิดในตระกูลนี้ทุกคน โดยเฉพาะลูกของนายสอนทุกคน จึงได้นามสกุลไวทยกุลโดยอัตโนมัติ
.........................................................................

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

บันทึกของผู้จัดทำ

Vaidyakula
ตระกูลไวทยกุล
จัดทำเป็น 5 Part ด้วยกันคือ
Part 1  บันทึกของผู้จัดทำ
Part 2  ประวัติความเป็นมาของตระกูลไวทยกุล
Part 3 รายชื่อบุคคลในตระกูลไวทยกุลเท่าที่ติดต่อได้
Part 4 ภาพใบพระราชทานนามสกุลไวทยกุล
Part 5 ภาพสมาชิกตระกูลไวทยกุล
...................................................................................

Part 1
บันทึกของผู้จัดทำ
         ผมชื่อ นายปราโมทย์ ไวทยกุล(G2) เกิดเมี่อวันที่ ๑๐ มกราคม ๒๔๘๔ เป็นบุตรของนายมะลิ ไวทยกุล(G1) ซึ่งเป็นน้องชายของขุนสุขบาลบริวัตร์(G1)ผู้ซึ่งได้รับพระราชทานนามสกุลไวทยกุล
        ผมได้มีโอกาสพบญาติพี่น้องครั้งใหญ่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 ในงานแต่งงานของลูกสาวของผมเอง ในครั้งนั้น ได้มีหลานชายของผมคนหนึ่ง คือพล.ท.ภูวดล ไวทยกุลG3(ลูกชายของ พ.ต.อ.ศักดิ์ ไวทยกุลG2) ได้มาปรารภว่าอยากจะจัดทำรายชื่อญาติพี่น้องในตระกูลของเราไว้ เพื่อจะได้มารู้จักเป็นพี่เป็นน้องกันตลอดไป หลังจากนั้นก็ได้ทราบว่า คุณภูวเดชG2(น้อง พล.ท.ภูวดล) กับน.ท.วรุตม์G3(ลูก กัปตันพิทยา ไวทยกุลG2) ได้ร่วมกัน พยายามทำเวบไซต์ตระกูลไวทยกุลขึ้นมาจนสำเร็จ แต่ใช้วิธีว่า ใครที่นามสกุลนี้มาพบเห็นเข้า ก็มาเพิ่มชื่อเอาเอง ก็ปรากฏว่า มีคนเข้ามาเพิ่มกันหลายคน แต่ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อสถานภาพความเป็นญาติของตนเองได้หมด ว่าตนเองมาจากตรงไหน เลยลำดับกันไม่ถูก ทำให้มองเห็นภาพของตระกูลไม่ชัดเจนเท่าที่ควร
                เวลาล่วงเลยมาจนถึง เดือนเมษายน ๒๕๕๔ ผมได้มีโอกาส พบกับ พล.ท.ภูวดลอีกครั้ง  ก็เลยถามถึงเรื่องนี้ จึงได้ทราบเรื่องดังที่กล่าวมา
               ผมนำเรื่องนี้มาปรึกษากับภรรยา และขอให้เขาช่วยเหลือ  ภรรยาผมก็ตกลง  เราสองคนจึงมาคิดกันว่าจะเริ่มอย่างไรดี ที่จะทำให้ญาติของเราได้รู้จักกันอย่างมีระบบ รู้ว่าเขาคือส่วนไหน ยืนอยู่จุดใดของ วงศ์ตระกูลไวทยกุล  ก็ได้ข้อตกลงกันว่า เราจะต้องเริ่มจากต้นตระกูลก่อน แล้วค่อยๆไล่เลียงกันลงไปเป็นสายๆ ทุกคนจึงจะมองเห็นกันได้ ที่สำคัญจะต้องมีผู้เชื่อมต่อระหว่างรุ่นแรกๆกับรุ่นหลังๆให้ได้ จึงจะทำได้สำเร็จ  ทุกคนจึงจะรู้ว่า ตนสืบทอดมาจากสายใคร เป็นอะไรกับอีกคน 
          ตอนแรกก็คิดกันว่า เราจะเป็นแค่ที่ปรึกษา ให้ลูกหลานที่มีความสามารถ ยังหนุ่มแน่นทำกัน แต่พอเริ่มต้น ก็ติดขัด เพราะเขาเป็น Generation ที่ 3-4 เขาไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ  G1-G2ได้หมด ในที่สุดผมก็ตัดสินใจจะเป็นผู้ริเริ่มทำ และลงมือทำให้ด้วยตัวเอง  เพราะดูแล้วGenerationของผมน่าจะเป็นตัวเชื่อมได้ดีที่สุด
        หลังจากนั้น ก็มานั่งไล่เลียงดูว่า ในGenerationของผม(G2 ) มีใครเหลือกันบ้าง พบว่าเหลือกันเพียง ๑๘ คนทั้งวงศ์ตระกูล(รู้สึกตกใจเพราะคิดว่ายังเหลือกันอีกเยอะ) ไล่ไปไล่มาผู้ที่จำเรื่องราวได้ และพูดกันรู้เรื่อง มีกันไม่ถึง ๑๐คน แต่ก็ยังดีที่ในรุ่นของเรา ๑๘ คนที่เหลือนี้เรารู้จักกันหมด และรักใคร่กลมเกลียวกันไม่เลือกว่าลูกใครเป็นลูกใคร รู้แต่เพียงว่าใครเกิดก่อนก็เป็นพี่ ใครเกิดทีหลังก็เป็นน้องแค่นั้นเอง การรวมญาติในรุ่นนี้จึงไม่ยากลำบากนัก
           ผมเริ่มโทรศัพท์ ไปหาพี่ๆ(G2ด้วยกัน)  ก็มี พี่นุกูล  พี่อรรถสิทธิ์  พี่ทรงสุข  พี่ธีรพงศ์  พี่บุปผา  พี่ผ่องศรี  พี่เครือจิตต์  พี่เรณู(สะใภ้)  พี่สมศรี(สะใภ้)  พี่ชุนศรี(สะใภ้) คุยกัน ซักถามเรื่องเก่าๆกัน ช่วยกันเล่า ช่วยกันต่อ ช่วยกันหา (บางทีสองคนเล่าเรื่องเดียวกันไม่ตรงกัน แต่เป็นเรื่องที่คนอื่นไม่รู้ ทุกคนก็ให้สองคนไปตกลงหาข้อยุติให้ได้ก่อนแล้วจึงมาเล่าให้คนอื่นฟัง) การทำอย่างนี้เป็นความสุขอย่างมากของคนแก่ๆอย่างพวกเรา ทำให้เรารักและสนิทกันมากขึ้น ได้คุยกันถึงสมัยเรายังเป็นเด็ก มีความสุขและอบอุ่นไม่เงียบเหงาเหมือนเมื่อก่อน ก็ต้องขอขอบคุณลูกหลานทุกๆคนที่ผลักดันให้เราทำงานนี้นะครับ
                  ผมและภรรยาได้ทำงานชิ้นนี้มาอย่างมีความสุขทุกๆวัน โดยไม่รีบเร่ง ไม่รีบร้อน (พวกลูกหลานเขาให้เวลา 2ปี) ปรากฏว่าขณะนี้(๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๔) ผม พบญาติในตระกูลไวทยกุล  ถึง 5 Generation จำนวนทั้งสิ้น200กว่าคนแล้ว 

(update: สำรวจครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 12ธันวาคม2561 พบญาติในตระกูลทั้งหมด ประมาณ550คน)

            เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับ ที่ตระกูลของเราจะได้รวมตัวกันเป็นปึกแผ่นเสียที ตอนนี้ก็กำลังติดตามรายละเอียดอยู่ทุกวัน คิดว่าถ้าพร้อมเมื่อไหร่ก็จะจัดชุมนุมย่อยๆสักครั้ง และมอบงานนี้ให้รุ่นลูกหลานที่มีความสามารถ ไปทำเวบไซต์ให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย
สุดท้ายก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆ น้องๆ ลูกหลานทุกๆคน ทั้งที่รู้จักกันและ ไม่เคยรู้จักกัน มาก่อน พอติดต่อไปก็ให้ความร่วมมือดีมากทุกๆคน เหมือนสนิทสนมคุ้นเคยกัน ทั้งๆที่หลายๆคนก็ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน  แต่นี่แหละครับคือสายเลือดไวทยกุลแท้ (หมายถึงผู้ที่มี geneของนายถึกอยู่ในตัวไม่ว่าจะปลี่ยนเป็นนามสกุลอะไร) เป็นเอกลักษณ์ของตระกูลเราที่ว่า ใครเป็นลูกใครก็ไม่สำคัญ เพียงแต่ต้องรู้ว่า ใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง เราก็รักกันได้แล้ว และจะรักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ไม่เบียดเบียนกันตลอดไป นะครับ
               ใครต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมหรือมีอะไรจะให้ช่วยเหลือรับใช้  หรืออยากจะติดต่อกับญาติคนไหนในตอนนี้ ก็สอบถามได้เลยนะครับ อ้อ.ช่วยส่งรูปของท่านมาให้กันบ้างนะครับ จะได้นำมาโชว์ให้ญาติพี่น้องไว้ดูกัน
        ปราโมทย์  ไวทยกุล (ปัจจุบันอายุ70ปี,G2)
        โทร. 086-6581997,  pete 100170 @ gmail.com
..................................................................................